ปัจเจกชน

วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 0 ความคิดเห็น
ปัจเจกชน เป็นผู้ที่มีวิสัยคล้ายปัจเจกพุทธเจ้า เป็นผู้ไม่ศรัทธาใครอย่างสาวกเลย หมายความว่าอย่างไร?  หมายความว่าเขาอาจศรัทธาผู้อื่นได้แต่จะไม่ใช่แบบสาวก เช่น ไปอ่านหนังสือของท่านพุทธทาสแล้วศรัทธาท่านพุทธทาส แต่ไม่ไปต่อสายธรรมโดยตรงแบบตัวต่อตัว ยังคงเชื่อตัวเอง อ่านเอง ศึกษาเองอยู่ต่อไป ต่อให้เขาได้ครูอาจารย์ที่ดี มีครูอาจารย์ที่ดี จะสอน จะถ่ายทอดอะไรให้ เขาก็จะไม่เอา ไม่รับ แต่ยินดีที่จะ "ศึกษาด้วยตนเอง" และมักจะใช้การ "อ่านเอา" ยิ่งอ่านมาก ยิ่งเหมือนรู้มาก ยิ่งรู้มาก ก็หลงตัวเองมาก ยิ่งมีคนชื่นชมในความรู้ของตนมาก ก็ยิ่งเตลิดเปิดเปิงไปใหญ่ คือ หลงตัวเองคิดว่าได้อรหันต์แล้ว ด้วยการ "อ่านเอง" ศึกษาเอง, ปฏิบัติเอง อย่างนั้น อันไม่ใช่วิถีของพระพุทธศาสนาเลย เป็นวิถีแบบปัจเจกชน แบบพระปัจเจกพุทธเจ้า ในพระพุทธศาสนานั้น จะไม่ศึกษาเอง แต่จะมีการต่อสายธรรม และรับธรรมจากพระพุทธเ้จ้า เพราะไม่ใช่ปัจเจกชน ไม่ใช่พระปัจเจกพุทธเจ้า นี่คือวิถีปกติในพระพุทธศาสนา    อนึ่ง ปัจเจกชนไม่ใช่คนที่ไม่มีเืพื่อน เขาอาจมีคนรู้จักมากมาย มีลูกศิษย์มากมายได้ แต่ด้วยจิตที่ไม่ยอมก้มจำนนต่อใครเลยทั้งนั้นนอกจากตัวเองเขาย่อมเข้าถึงซึ่งความเป็นปัจเจกชนได้ไม่จากต่างพระเทวทัตที่แม้จะมีคนหลงเชื่อตามท่านไปมากมาย แต่สุดท้าย ท่านก็จะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าอยู่ดี


การต่อสายธรรม และการรับธรรมนั้น เป็นเอกลักษณ์ของพระพุทธศาสนา และเราควรไปต่อสายธรรมที่ตรงทางจากพระพุทธเจ้า เพราะท่านคือผู้ที่ได้รับกิจโปรดสัตว์มา ไม่ใช่ผู้อื่น แม้พระพุทธเจ้าจะไม่มีขันธ์ห้าแล้ว เราสามารถรับธรรมจากท่านได้โดยตรงง่ายกว่ายามที่ท่านมีขันธ์ห้าเสียอีก หลายคนได้ขอธรรมโดยตรงจากพระพุทธเจ้าแล้วท่านก็ให้โดยตรง พิสูจน์ได้จริง เห็นจริงแก่ตัวเองมาแล้วมากมาย แต่การได้รับธรรมโดยตรงจากพระพุทธเจ้าไม่ผ่านสังขารมนุษย์นี้ มีข้อเสียคือ ทำให้คนผู้นั้นคิดว่าตัวเองได้ธรรมเอง ไม่มีใครทำให้ตนได้รับ ก็จะยังเหลือ "สักกายทิฏฐิ" อยู่ จึงทำให้ไม่อาจสำเร็จเป็นอริยบุคคล จำต้องได้รับการทำลายสักกายทิฏฐิจากมนุษย์ที่มีสังขารด้วย พร้อมๆ กัน จึงจะสำเร็จผลเป็นพระอริยบุคคลได้ ดังนั้น "มนุษย์บางคน" จึงทำตนดั่ง "สะพานเชื่อม" เื่พื่อให้พระพุทธเจ้าที่ไม่มีสังขารแล้ว ได้มาโปรดสัตว์ โดยขณะเดียวกัน ก็จะช่วยทำให้คนเหล่านั้น หมดสักกายทิฏฐิไปด้วย แต่เพราะภาพลักษณ์เปลือกนอกที่ดูเหมือนการ "เข้าทรง" มากเกินไป ทำให้คนเข้าใจผิด คิดว่าบ้า คิดว่าเพี้ยน การเข้าทรงพระพุทธเจ้านั้น ไม่มีจริง เป็นไปไม่ได้ เพราะเข้าใจผิดและมีอคติต่อการเข้าทรง แท้แล้ววิธีนี้ ไม่ใช่การเข้าทรงแต่อย่างใด เป็นเพียงการใช้่สังขารช่วยเป็นสะพานเชื่อมโยงไปสู่พระพุทธเจ้าเท่านั้นเอง อนึ่ง ท่านที่รับไม่ได้กับวิธีการนี้ สามารถรับธรรมโดยตรงจากพระพุทธเจ้าได้ แต่ท่านอาจต้องอาศัยผู้อื่นช่วยทำลายสักกายทิฏฐิให้ท่านต่ออีกเท่านั้นเอง โดยปกติแล้ว ควรทำลายสักกายทิฏฐิก่อนแล้วจึงรับธรรมภายหลัง



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 

©Copyright 2011 Mouth Buddha | TNB