รูปอรหันต์

วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556 0 ความคิดเห็น
รูปอรหันต์ เป็นวลีที่ไม่มีในอภิธรรม แต่เขียนขึ้นเพื่ออธิบายให้เกิดความเข้าใจ เพื่อแยกแยะระหว่าง พระอรหันต์ที่เป็น "สัจธรรมแท้" ไม่ใช่ "รูปนามแห่งพระอรหันต์" เหมือนมีคนพูดถึงมังกร เราไม่เคยเห็นมังกร เราก็จะนึก "มโนภาพของมังกร" ออกมาในความคิด, ความเชื่อของเรา เมื่อเราไปเจออะไรที่เหมือน หรือสอดคล้องกับความคิด, ความเชื่อของเรา หรือเราเหนื่อยที่จะหาแล้ว อยากพบมังกรแล้ว พอสิ่งแวดล้อมเอื้อหนุนให้เราเชื่อ เช่น คนจำนวนมากมายกำลังกราบไหว้มังกรอยู่ เราไม่ทันรู้ว่าเป็นมังกรจริงหรือเปล่า เราก็เชื่อว่า "นี่แหละมังกร" เช่นเดียวกัน เราไม่เคยเป็น "พระอรหันตสาวก" เราก็นึกไปตามความคึิด, ตามความเื่ชื่อของเรา พอเราไปเจอใครที่คล้ายตามความคิดเรานั้น พร้อมกับสิ่งแวดล้อมเื้อื้ออำนวยให้เรามีความเชื่อ เราก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อ พอเชื่อไปแล้วก็เกิดความกลัว กลัวว่าจะมีใครมาทำลายความเชื่อของเรา ยึดความเชื่อของเราซึ่งจริงหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบ เป็นสรณะที่พึ่ง ใครเข้ามาทำลายความเชื่อ เราก็จะปกป้องเพื่อไม่ให้ใครมาทำลายความเชื่อเรานั้น ทำให้เราปกป้องคนที่เราเื่ชื่อว่าเป็นพระอรหันต์ด้วย ไม่ว่าท่านผู้นั้นจะใช่พระอรหันต์จริงหรือไม่ ก็ตาม ดังนั้น สิ่งที่เราเห็นหรือนึกภาพ "วาดภาพพระอรหันต์ไว้ในความคิด, ความเข้าใจเรา" นี่เอง ที่เรียกว่า "รูปอรหันต์" จัดเป็นเพียง "รูปนาม" อย่างหนึ่ง ที่ทำให้เราติดภาพว่า "พระอรหันต์น่าจะเป็นอย่างนี้นะ อย่างนั้นนะ" โดยที่เรายังไม่เคยเห็นพระอรหันต์จริงๆ เช่น ถ้าเราไปเห็นพระรูปหนึ่งถูกใจเราแล้ว เราคิดและเชื่อว่าท่านคือพระอรหันต์แล้ว เราก็จะยึดท่านเป็น "ต้นแบบของพระอรหันต์" ของเรา เราจะสร้าง "รูปพระอรหันต์" ขึ้นมาในความคิด, ความเชื่อของเราว่าพระอรหันต์เป็นเช่นนี้ น่าศรัทธาอย่างนี้, ทำตัวสงบเสงี่ยมอย่างนี้, ทำวัด, สวดมนต์, นั่งสมาธิ, สอนธรรม อย่างนั้นอย่างนี้ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ ยังไม่ใช่พระอรหันต์แท้ๆ ที่เป็นสัจธรรมจริงๆ เป็นแค่ "รูปอรหันต์" ที่เราสร้างขึ้นมาใน "มโนสำนึก" และความเชื่อของเราเท่านั้นเอง เมื่อเรายึดติดรูปอรหันต์เหล่านี้แล้ว เราก็จะปักใจไปว่าอย่างนี้แหละพระอรหันต์ พระอรหันต์ต้องเป็นอย่างนี้แหละ พอเราพบพระอรหันต์จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิด เราืเชื่อ เราก็จะปฏิเสธว่าท่านไม่ใช่พระอรหันต์ (ทั้งๆ ที่ท่านคือพระอรหันต์ของจริง)


ปัจจุบัน มีผู้ติดในรูปอรหันต์มากมายเหลือคณานับ ไม่ต่างจากการยึดติด "รูปตถาคต" เพราะคนเรามักจะชอบคิดฝัน, วาดหวัง, สร้างภาพสิ่งต่างๆ ที่เรายังไม่เคยเจอจริงๆ ไปเสียก่อน แทนที่จะเปิดใจกว้างๆ ไว้ แล้วรอให้พบของจริง ค่อยว่ากัน เราก็จะวาดภาพพระอรหันต์ของเราเอง ขึ้นมาในใจ ในความเชื่อของเราเอง แล้วเราก็ยึดมั่้นถือมั่นภาพนั้นไว้ ที่แย่กว่านั้นคือ การไปเก็บภาพทรงจำจากคนที่ไม่ใช่พระอรหันต์ แล้วหลงไปว่าเป็นพระอรหันต์ เข้ามาประกอบความเข้าใจ ทำให้เข้าใจผิดในความเป็นพระอรหันต์ไป พอได้พบเจอของจริง หรือคำอธิบายที่แตกต่างออกไปจากความคิด, ความเชื่อ, ภาพอรหันต์ในความคิดของตัวเอง ก็จะเกิดการต่อต้าน การไม่ยอมรับ, การไม่เปิดใจรับฟัง สุดท้าย ก็จะพบแต่อรหันต์เทียมเท็จ อนึ่ง ในทางพุทธฝ่ายมหายานมีการจัดจำแนกพระอรหันต์ไว้อีกแบบ ซึ่งไม่เหมือนพระอรหันต์แบบดั้งเดิม เรียกว่า "อรหันตโพธิสัตว์" บ้าง ท่านเหล่านี้ จะทำหน้าที่, ทำกิจเอง โดยพละการณ์ได้ ไม่ต้องรอให้ใครมาบอก ซึ่งไม่ใช่วิสัยของพระสาวกและพระอรหันตสาวก คนที่กล้าึิึิคิดเองทำเองนั้น ไม่ใช่คนที่เป็นผู้ตาม เป็นสาวกชั้นดี ที่คอยฟังคำสั่งจากเจ้านายได้เลย เพราะวิสัยของพระโพธิืสัตว์และพระสาวกต่างกัน



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 

©Copyright 2011 Mouth Buddha | TNB