นิพพานปัจจัย

วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 0 ความคิดเห็น
นิพพานปัจจัย ไม่ใช่คำในอภิธรรม แต่เขียนขึ้นเพื่อใช้อธิบายความเป็นจริงบางประการ กล่าวคือ นิพพานนี้ ไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัยให้เกิดหรือดับ ด้วยนิพพานพ้นแล้วจากธรรมอันเกิดและดับตามเหตุปัจจัยใดๆ ไม่จำเป็นต้องมีเหตุปัจจัยใดให้เกิดนิพพาน หรือดับนิพพานลงได้ ก็จริง แต่นิพพานเอง กลับเป็นปัจจัยให้เกิดอย่างอื่นได้ (สิ่งอื่นไม่ใช่ปัจจัยแก่นิพพาน แ่ต่นิพพานเป็นปัจจัยแก่สิ่งอื่น) เช่น จิตและเจตสิก หรือจะกล่าวง่ายๆ ด้วยการยกตัวอย่างเช่น เมื่อบุคคลมีจิตหยั่งถึงนิพพานแล้วยึดอยู่ในอารมณ์นิพพาน ได้อาศัยเอานิพพานเป็นอารมณ์ สิ่งใดที่ไม่ใช่นิพพาน ก็จะเห็นว่าไร้สาระบ้าง, น่ารำคาญบ้าง, หลงทิศผิดทางบ้าง ฯลฯ นำไปสู่ความคิดที่ "หนีทางโลกหรือหนีวิบากกรรม" แล้วเอาตัวเองไปสู่ "นิพพาน" อยู่อย่างนั้น คือ ได้ถึงอารมณ์นิพพานแล้ว ปฏิบัติถึงแล้ว แต่แช่อยู่ในนิพพานเป็นอารมณ์ ทำให้ไม่ออกจากอารมณ์นั้นๆ แล้วหลบเลี่ยงหรือเบื่อหน่ายซึ่งวิบากกรรมทางโลก ทำให้ไม่อาจชำระวิบากกรรมทางโลกได้หมด ด้วยหลบเลี่ยงสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่นิพพานนั่นเอง เช่นนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้ และส่งผลให้สุดท้าย "ไม่ได้นิพพาน" ก็ด้วย "จิตแช่ดองในอารมณ์นิพพาน" มากเกินไป ไม่ออกไปสู่วิบากกรรมแล้วชำระ ชดใช้ให้หมดเสีย จึงมีวิบากกรรมเหลืออยู่ เหลือเศษกรรมอยู่ที่ชำระยังไม่หมดสิ้น เพราะแช่ดองอยู่ในอารมณ์นิพพาน


มีวลีหนึ่งกล่าวว่า นิพพานเป็นปัจจัยแก่จิตและเจตสิกได้ ก็ด้วยเหตุนี้ (บุคคลเอานิพพานเป็นอารมณ์จึงก่อให้เกิดจิตสังขารใหม่ๆ และเจตสิกได้อีก) ด้วยอำนาจแห่ง "อารัมมณปัจจัย" คือ จิตเสวยอารมณ์เป็นปัจจัยให้เกิด เช่นนี้ ส่งผลให้แม้จิตเข้าถึงซึ่งพระนิพพานแล้ว แต่เขาก็อาจไม่ได้นิพพานได้ เพราะเสวยอารมณ์นิพพานอยู่ไม่ยอมออกไปสู่วิบากกรรมตามจริงของตน ไม่ยอมกลับไปรับวิบากกรรมตามจริงของตนให้หมดสิ้น นั่นเอง ดังนั้น แม้ถึงซึ่งอรหันตผลแล้ว ก็อาจยังไม่ได้นิพพานในชาตินั้นๆ เลยก็ได้ ดังนี้



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 

©Copyright 2011 Mouth Buddha | TNB