ขันธ์จร

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556 0 ความคิดเห็น
ขันธ์จร เป็นคำที่ไม่มีในอภิธรรม แต่จำเป็นต้องเขียนขึ้นเพื่ออธิบายความจริงบางประการ ถึง ขันธ์หรือ วิญญาณขันธ์ ที่ไม่เที่ยง เกิดแล้วดับได้เป็นธรรมดา ไม่อาจยึดมั่นเป็นตัวตนของตน กล่าวคือ ปกติ มนุษย์มีขันธ์ห้าเป็นประจำชาติภพนั้นๆ อยู่แล้ว แต่ก็มี "ขันธ์จร" เหมือนเป็น "อาคันตุกะ" มาเยี่ยมเยียนเป็นบางครั้ง บางคราวได้ ตามอำนาจแห่งวิบากกรรม ส่งผลให้มี "พฤติกรรมแปลกๆ" เพิ่มเติมขึ้นมากว่าปกติที่เคยเป็น อันไม่ใช่พฤติกรรมความเคยชินเดิมๆ ในคนธรรมดา "ขันธ์จร" ก็มีได้ แต่อาจดูไม่ชัดเจน เพราะขันธ์ประจำของพวกเขา ไม่บริสุทธิ์มากนัก มีกิเลสเจือปนอยู่ มีพฤติกรรมซับซ้อนอยู่แล้วเป็นพื้นฐาน ทว่า ในพระอรหันต์ ผู้มีขันธ์บริสุทธิ์แล้ว ใสดีแล้ว ย่อมมองเห็น "ขันธ์จร" ได้่ชัดเจนมากกว่าคนทั่วไป เช่น ท่านสุภัททะ ที่หลังบรรลุธรรมก็ปรามาสพระธรรมวินัย อนึ่ง ขันธ์จรเหล่านี้ ไม่ต้องไปยึดว่าจะต้องไม่เกิด หรือไม่มี หากมีวิบากกรรมเป็นเหตุ ก็ทำให้เกิดขันธ์จรขึ้นมาได้ ดังนั้น แม้บุคคลบรรลุอรหันต์แล้วขันธ์ประจำใสบริสุทธิ์แล้ว ก็อาจมีขันธ์จรที่ทำให้ดูแปลกๆ หรือดูไม่บริสุทธิ์ได้ แต่ไม่เป็นปัญหาใดๆ


อนึ่ง การที่มีขันธ์จรเกิดขึ้นนี้ เพราะขันธ์ที่เหลืออยู่หลังบรรลุธรรมนั้น ยังเป็น "เชื้อเกิดได้อีก" ทำให้เกิดขันธ์จรขึ้นได้ ตราบใดที่ขันธ์ยังเหลืออยู่ ก็จะเป็นเชื้อเกิดได้ต่อไป เรียกว่า "นิพพานเป็นปัจจัย ให้เกิด จิตและเจตสิก โดยอาศัยอำนาจแห่งอารัมมณปัจจัย" หรือ กล่าวง่ายๆ คือ อาศัยอารมณ์นิพพานเป็นปัจจัย ให้เกิดจิตและเจตสิกได้ เมื่อเกิดจิตและเจตสิกแล้ว ทั้งจิตและเจตสิกก็ทำงานต่อไป สามารถรับรู้รูปต่างๆ ได้ ตามกระบวนการปกติ ก่อให้เิกิดสิ่งอื่นๆ ตามมาตามวงจรปฏิจสมุปบาท เพียงแต่ในพระอรหันต์นั้น จะไม่เกิดมากหรือยาวไปจนถึงชาติภพต่อไป ก็จะหมดอำนาจ จบลงได้ก่อน ดังนี้ พระอรหันต์ก็มีลักษณะที่คล้ายคนปกติได้ มีอารมณ์ึความรู้สึกต่างๆ ได้ เพียงแต่ไม่มากพอที่จะทำให้เกิดชาติภพใหม่ๆ เท่านั้นเอง



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 

©Copyright 2011 Mouth Buddha | TNB