มานะ

วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 0 ความคิดเห็น
มานะ คือ สังโยชน์เครื่องร้อยรัดที่เป็นผลมาจากการถือตัวถือตนเช่นกันกับสักกายทิฏฐิ แต่มานะนี้ ไม่ใช่เรื่องส่วนกายสังขาร เป็นเรื่องลึกลงไประดับจิตวิญญาณ อนึ่ง มานะสังโยชน์ จะแสดงออกมาในรูปของการเอาชนะผู้อื่น, ชอบแข่งขัน, ยกตนให้เหนือกว่าผู้อื่น, ทำตนเสมอผู้อื่นที่ไม่ควร และการเปรียบเทียบตนและผู้อื่น แล้วพยายามทำให้ตนสูงส่งขึ้น เป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้ เมื่อทำจนติดเป็นนิสัยแล้วจะกลาย เป็นสังโยชน์เครื่องร้อยรัด ทำให้ผูกมัดพันธนาการบุคคลไว้ เมื่อได้ฟังธรรม ก็ขัดขวางการบรรลุธรรมได้ ทำให้ไม่อาจบรรลุธรรมที่สูงขึ้นไปได้ หากไม่หลุดพ้นจากสังโยชน์ตัวนี้ เช่น มัวแต่มีมานะจะเอาชนะอีกฝ่าย จนไม่ทันได้ฟังเหตุผล หรือสาระธรรมที่อีกฝ่ายแสดงให้ดู ในคนที่มีความอยากเอาชนะคนอื่น แ่ต่ไม่ได้กลายเป็นพันธนาการร้อยรัดเช่นนี้ เป็นเพียงเหมือนขันธ์กองหนึ่งที่เกิดแล้วดับไปตามเหตุปัจจัย สิ่งนั้น ก็ไม่อาจจะเป็นสังโยชน์ได้ ย่อมเป็นเพียงทิฐิมานะอันเกิดขึ้นแล้วดับไป ไม่ใช่มานะสังโยชน์ แต่หากไม่เป็นเช่นนี้ มานะที่มีมากเกินไป ไม่จบลงได้ พันธนาการบุคคลอยู่เรื่อยๆ ยิ่งฟังธรรม, สนทนาธรรมเท่าไรก็ไม่หลุดพ้นออกมาจากมานะสังโยชน์นั้น เพราะมัวแต่คิดจะเถียงเื่พื่อเอาชนะอีกฝ่ายให้อีกฝ่ายยอมจำนนแก่ตนให้จงได้ นี่เรียกว่า "มานะสังโยชน์" บุคคลทั้งหลายมีทิฐิมานะได้ ถ้าสิ่งนั้นไม่ผูกมัดพััวพันจนมากเกินไปแล้วขัดขวางการบรรลุธรรม ทิฐิมานะนั้นก็จะเป็นเีพียงขันธ์กองหนึ่ง ที่ไม่เที่ยง เกิดดับตามเหตุตามปัจจัยไปเอง ไม่จำเป็นต้องดับทิฐิมานะเช่นนี้เพราะไม่ใช่สังโยชน์ เมื่อใดที่กิเลสนิพพาน ก็อาศัยจังหวะนั้นพิจารณาธรรมให้แจ้ง จนบรรลุได้เช่นกัน เมื่่อจะละสังขารจึงกระทำ "ขันธปรินิพพาน" ทิฐิมานะอันอยู่ร่วมในกองขันธ์ก็สิ้นไป หมดหน้าที่ของตนไป ดังนั้น ทิฐิมานะจึงมีได้ หากยังไม่สิ้นชีวิต ตราบเท่าที่ไม่พัวพันขัดขวางจนกลายเป็นอุปสรรคในการบรรลุธรรม ทิฐิมานะนั้นก็ไม่จัดว่าเป็น "มานะสังโยชน์"


มานะสังโยชน์เป็นสังโยชน์ระดับละเอียดชนิดหนึ่งในห้าชนิด (ได้แก่ มานะ, อุทธัจจะ, รูปราคะ, อรูปราคะ, อวิชชา) ซึ่งจะยังคงมีได้ในพระอนาคามีจนเมื่อพระอนาคามีหลุดพ้นจากสังโยชน์ละเอียดเหล่านี้แล้ว จึงจะบรรลุเป็นพระอรหันต์ อนึ่ง พระอริยบุคคลทั้งสี่ประเภทนั้น มีเพียงพระอรหันต์เท่านั้นที่แจ้งในนิพพานจริงๆ ส่วนอีกสามประเภทนั้น แม้จิตจะตรงนิพพาน ปรารถนานิพพานแล้ว แต่ยังไม่แจ้งในนิพพาน เพราะยังมี "อวิชชาสังโยชน์" เป็นเครื่องร้อยรัดอยู่ ดังนั้น มานะนี้จึงมีได้ หากไม่พัวพันจนเป็นมานะสังโยชน์



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 

©Copyright 2011 Mouth Buddha | TNB