อนึ่ง คำว่า "ภพ" นั้น ต่างจากคำว่า "มิติ" คำว่า "มิติ" ใช้ในความหมายที่กว้างกว่าคำว่าภพ ส่วนคำว่าภพใช้เฉพาะในความหมายอันเป็นที่ยอมรับ ถูกสร้างขึ้นหรือดูแลโดยสิ่งศักดิสิทธิ์ คำว่า "มิติ" อาจเป็นเพียงนามธรรมที่ไม่อาจเกิดขึ้นหรือดำีรงอยู่ได้จริง เช่น มิติแห่งความฝัน, มิติแห่งจินตนาการ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยในการอธิบายหรือทำความเข้าใจความเป็นจริงแบบ "แยกส่วนย่อย" ไม่ได้มองเห็นทั้งหมดรวมกัน ซึ่งอาจยากเกินไปสำหรับบางท่าน ก็เท่านั้นเอง ทั้งนี้จิตจะเวียนว่ายจุติจากภพหนึ่งไปสู่ภพหนึ่ง ไม่จบสิ้น จนกว่าจะนิพพาน ก็จะหลุดพ้นจากภพต่างๆ ได้ การจุติไปยังภพใดก็แล้วแต่ แต่ละภพจะมีผู้สร้าง, ผู้รักษาดูแล, ผู้ปกครองอยู่ ทำให้จิตนั้นไม่มีอิืสระต้องอยู่ภายใต้ระบบ, ระบอบนั้นๆ ตราบจนกว่าจะนิพพานไป
ภพ
ภพ คือ สถานที่รองรับการเกิดขึ้น, ดำรงอยู่ จวบจนกระทั่งดับไปของสัตว์ตามระบบระบอบแห่งสิ่งศักดิสิทธิ์ ซึ่งปกติ จะมีทั้งหมด ๓ ภพ คือ สวรรค์, โลกมนุษย์ และนรก ทั้งสามภพนี้่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปของสิ่งศักดิสิทธิ์ว่า "ถูกต้องตามระบบการเวียนว่ายตายเกิด" หากปวงสัตว์เวียนว่ายตายเกิดในสามภพนี้ ทว่า ยังมีสัตว์กลุ่มหนึ่งที่หลุดออกจากระบบทั้งสามนี้ ไปแสวงหาการดำีรงอยู่ในแบบ, ในที่ของตนเองที่เรียกว่า "อันตรภพ" ซึ่งสิ่งศักดิสิทธิ์ไม่นับว่าเป็นภพที่ถูกต้อง เช่น เทพเทวดาที่ทำผิดกฏสวรรค์ แล้วไม่ยอมรับการลงทัณฑ์ ได้หนีลงมาอยู่ในโลกมนุษย์ แทรกอยู่กับมนุษย์แทน นี่ก็นับว่าเป็น "อันตรภพ" เช่นกัน บางท่านอาจเรียกอันตรภพว่า "ภพมืด" และเรียกเหล่าผู้ที่แอบหนีมาอยู่ในภพเหล่านี้ว่า "จิตวิญญาณภาคมืด" เช่น เหล่าซาตานทั้งหลาย อนึ่ง สวรรค์นั้นไม่มีมืด มีแต่ความสว่างไสว เป็นภพแห่งแสงสว่างไปด้วยรัศมีของเหล่าเทพเทวดา ส่วนโลกนั้นมีทั้งด้านมืดและด้านสว่างแต่โลกด้านมืดหรือในเวลากลางคืน ก็ไม่ใช่ภพมืดหรืออันตรภพแต่อย่างใด ยังจัดอยู่ใน "ภพโลกมนุษย์" อยู่นั่นเอง เพียงแต่เป็นเวลากลางคืนเท่านั้น ภพมืดหรืออันตรภพใช้หมายถึงภพที่ไม่ได้รับการยอมรับ ไม่มีอยู่ในระบบสามภพจริง ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยเทพที่หลงผิดเท่านั้น นอกจากนี้ ทั้งจักรวาลย่อมมีภพต่างๆ ได้เพียงสามภพนี้ ดาวบางดวงมีเพียงภพเดียว คือ ภพสวรรค์ ในภพโลกมนุษย์หรือภพแห่งวัตถุ-สังขาร กลับไม่มีตัวตน, สิ่งมีชีวิตอยู่เลย, แต่ในดาวโลกดวงนี้ จะมีภพและสัตว์ทั้งสามภพอยู่ครบ จึงเรียกว่า "ตรีสหัสสโลกธาตุ" หรือ "ไตรภพ"
อนึ่ง คำว่า "ภพ" นั้น ต่างจากคำว่า "มิติ" คำว่า "มิติ" ใช้ในความหมายที่กว้างกว่าคำว่าภพ ส่วนคำว่าภพใช้เฉพาะในความหมายอันเป็นที่ยอมรับ ถูกสร้างขึ้นหรือดูแลโดยสิ่งศักดิสิทธิ์ คำว่า "มิติ" อาจเป็นเพียงนามธรรมที่ไม่อาจเกิดขึ้นหรือดำีรงอยู่ได้จริง เช่น มิติแห่งความฝัน, มิติแห่งจินตนาการ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยในการอธิบายหรือทำความเข้าใจความเป็นจริงแบบ "แยกส่วนย่อย" ไม่ได้มองเห็นทั้งหมดรวมกัน ซึ่งอาจยากเกินไปสำหรับบางท่าน ก็เท่านั้นเอง ทั้งนี้จิตจะเวียนว่ายจุติจากภพหนึ่งไปสู่ภพหนึ่ง ไม่จบสิ้น จนกว่าจะนิพพาน ก็จะหลุดพ้นจากภพต่างๆ ได้ การจุติไปยังภพใดก็แล้วแต่ แต่ละภพจะมีผู้สร้าง, ผู้รักษาดูแล, ผู้ปกครองอยู่ ทำให้จิตนั้นไม่มีอิืสระต้องอยู่ภายใต้ระบบ, ระบอบนั้นๆ ตราบจนกว่าจะนิพพานไป
อนึ่ง คำว่า "ภพ" นั้น ต่างจากคำว่า "มิติ" คำว่า "มิติ" ใช้ในความหมายที่กว้างกว่าคำว่าภพ ส่วนคำว่าภพใช้เฉพาะในความหมายอันเป็นที่ยอมรับ ถูกสร้างขึ้นหรือดูแลโดยสิ่งศักดิสิทธิ์ คำว่า "มิติ" อาจเป็นเพียงนามธรรมที่ไม่อาจเกิดขึ้นหรือดำีรงอยู่ได้จริง เช่น มิติแห่งความฝัน, มิติแห่งจินตนาการ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยในการอธิบายหรือทำความเข้าใจความเป็นจริงแบบ "แยกส่วนย่อย" ไม่ได้มองเห็นทั้งหมดรวมกัน ซึ่งอาจยากเกินไปสำหรับบางท่าน ก็เท่านั้นเอง ทั้งนี้จิตจะเวียนว่ายจุติจากภพหนึ่งไปสู่ภพหนึ่ง ไม่จบสิ้น จนกว่าจะนิพพาน ก็จะหลุดพ้นจากภพต่างๆ ได้ การจุติไปยังภพใดก็แล้วแต่ แต่ละภพจะมีผู้สร้าง, ผู้รักษาดูแล, ผู้ปกครองอยู่ ทำให้จิตนั้นไม่มีอิืสระต้องอยู่ภายใต้ระบบ, ระบอบนั้นๆ ตราบจนกว่าจะนิพพานไป
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น