อตัมยตา

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556 0 ความคิดเห็น
อตัมยตา หมายถึง "จิตที่หลุดพ้น จิตที่เหนือโลก" ไม่หลงโลก ไม่ยึดติดใดๆ ในโลกนี้ และโลกหน้า (หรือดาวไหนๆ ดาวพ่อ ดาวแม่ ต่างดาว ก็ไม่ยึดติดแสวงหา) ไม่ยึดติดในชาติภพนี้และชาติภพหน้า เป็นจิตที่พร้อมนิพพานแล้ว ซึ่งเป็นลักษณะอย่่างหนึ่งของ "พระอรหันต์" อนึ่ง ผู้ที่มีจิตลักษณะนี้ อาจจะดูเหมือนคนที่หลุดๆ ลอยๆ หรือเหมือนคนบ้าๆ เพี้ยนๆ ได้ เพราะเป็นจิตที่หลุดพ้นโลก จึงดูเหมือนคนหลุดๆ ก็ได้ ดังนั้น หากท่านเห็นใครแปลกๆ ดูหลุดๆ ท่านไม่ใช่จิตแพทย์ ไม่อาจตรวจวินิจฉัยว่าเขาเป็นอะไร ก็อย่าไปทำหน้าที่ใส่ร้ายว่าเขาเป็นอะไร ก็จะไม่เกิดกรรม เพราะหากกระทำจนติดเป็นนิสัย ไม่แน่ว่าท่านอาจจะปรามาสพระอรหันต์เข้าสักวันหนึ่งได้ โดยไม่รู้ตัว จิตที่ดูสงบ น่านับถืิอศรัทธาและอยู่ในกรอบจารีตที่ดีนั้น ไม่ใช่ "อตัมยตา" เนื่องจากยังยึดติดในกรอบจารีตที่ดีงามอยู่ ยังไม่หลุดพ้นความน่าเชื่อถือศรัทธาไปได้ หรือกล่าวง่ายๆ คือ ท่านเหล่านี้กลัวคนไม่นับถือศรัทธา ยังตกอยู่ในอำนาจแห่งสรรเสริญ-นินทา อันเป็นหนึ่งในโลกธรรม ๘ เท่านั้นหาได้มีจิตหลุดพ้นทางโลกจริงไม่ ยังวนอยู่ในโลกธรรม ๘ คือ สรรเสริญ-นินทา อนึ่ง คนที่ดูน่าศรัทธา ตรงตามสเป็คของ "ปุถุชนที่ยังมีกิเลส" อาจไม่ใช่พระอรหันต์ แต่เป็นผู้ที่มีลักษณะตรง "อุปทาน" ของแต่ละคน เช่น ถ้าเราอุปทานไปก่อนว่า "พระอรหันต์ต้องสงบเสงี่ยม" พอเราไปเจอพระที่สงบเสงี่ยมและมีอะไรดีๆ มากมาย เราก็หลงว่า "นั่นคือ พระอรหันต์" ของเรา ด้วยอุปทานนั้น


เมื่อบุคคลสำเร็จอรหันตผล จะมีลักษณะ "อตัมยตา" คือ ดูเหมือนคนหลุดๆ หลุดโลก หรือหลุดออกจากกรอบ คือ เขาหลุดพ้นแล้ว ออกจากโลกและกรอบใดๆ ได้แล้ว เขาจึงดูหลุดๆ หรือหลุดโลกหน่อยๆ เช่นนั้น ทั้งนี้ ไม่เหมือนกับคนบ้า และคนหลุดโลกแบบไร้ปัญญา เพราะเมื่อเราได้สนทนากับท่านดูแล้ว จะมีความแตกต่างชัดเจน คือ ท่านที่มีลักษณะ "อตัมยตา" จะมีปัญญาชัดเจน ไม่ใช่คนที่อยู่ในกรอบจารีตที่ดีงาม เพื่อหวังให้คนศรัทธา กลัวไม่มีใครศรัทธา เพราะติดอยู่ในโลกธรรม ๘ คือ สรรเสริญ-นินทา เลย



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

 

©Copyright 2011 Mouth Buddha | TNB