ดังนั้น "พระิอรหันต์" จึงไม่เที่ยง ด้วยเพราะเป็นเพียง "รูปนามหนึ่ง" ในปฏิจสมุปบาท มิใช่ธรรมอันพ้นแล้วจากการเกิดดับ ยังเกิดและดับได้อยู่ ดังนี้ จึงอาจนิพพานในชาตินั้นๆ เลยก็ได้ (ด้วยรู้แจ้งในนิพพานแล้ว) หรืออาจยังไม่รีบนิพพานก็ได้เช่นกัน ในกรณีที่รีบนิพพานในชาตินั้นๆ เลย จำต้องอาศัย "ธรรมวินัย" ของพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องเตือนสติ ด้วยปัญญาของพระอรหันตสาวก ไม่อาจทราบทุกอย่าง แต่พระพุทธเจ้ามีสัพพัญญูญาณ ทราบทุกอย่าง จึงคอยบอกหรือเตือนสติพระสาวกได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ปรารถนานิพพาน จึงจำต้องเดินตามพระพุทธเจ้า ไม่อาจขาดซึ่งพระพุทธ, พระธรรมวินัย และความเป็น "อรหันตสาวก" ได้เลย จำต้องครบองค์รัตนตรัยทั้งสามส่วนดังนี้ฯ จักถือเอาว่าได้เพียงพระธรรมมาแล้วศึกษาเองก็บรรลุได้ ทำความเข้าใจด้วยการอ่านก็บรรลุได้ (สุตมยปัญญา) ไม่มีพระวินัย, ไม่ตรงต่อพระพุทธเจ้าก็นิพพานได้ นั้น เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะยุคนี้ ยังไม่ใช่ยุคของพระปัจเจกพุทธเจ้าที่จะนิพพานได้ด้วยตนเองแล ...
อรหันต์ & นิพพาน
ดังนั้น "พระิอรหันต์" จึงไม่เที่ยง ด้วยเพราะเป็นเพียง "รูปนามหนึ่ง" ในปฏิจสมุปบาท มิใช่ธรรมอันพ้นแล้วจากการเกิดดับ ยังเกิดและดับได้อยู่ ดังนี้ จึงอาจนิพพานในชาตินั้นๆ เลยก็ได้ (ด้วยรู้แจ้งในนิพพานแล้ว) หรืออาจยังไม่รีบนิพพานก็ได้เช่นกัน ในกรณีที่รีบนิพพานในชาตินั้นๆ เลย จำต้องอาศัย "ธรรมวินัย" ของพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องเตือนสติ ด้วยปัญญาของพระอรหันตสาวก ไม่อาจทราบทุกอย่าง แต่พระพุทธเจ้ามีสัพพัญญูญาณ ทราบทุกอย่าง จึงคอยบอกหรือเตือนสติพระสาวกได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ปรารถนานิพพาน จึงจำต้องเดินตามพระพุทธเจ้า ไม่อาจขาดซึ่งพระพุทธ, พระธรรมวินัย และความเป็น "อรหันตสาวก" ได้เลย จำต้องครบองค์รัตนตรัยทั้งสามส่วนดังนี้ฯ จักถือเอาว่าได้เพียงพระธรรมมาแล้วศึกษาเองก็บรรลุได้ ทำความเข้าใจด้วยการอ่านก็บรรลุได้ (สุตมยปัญญา) ไม่มีพระวินัย, ไม่ตรงต่อพระพุทธเจ้าก็นิพพานได้ นั้น เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะยุคนี้ ยังไม่ใช่ยุคของพระปัจเจกพุทธเจ้าที่จะนิพพานได้ด้วยตนเองแล ...
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น